วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

“สูตรแห่งชีวิตประจำวัน”

“สูตรแห่งชีวิตประจำวัน”

๑. ดื่มน้ำให้มาก
๒. กินอาหารเช้าเหมือนราชา รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่า....กินมือหนักที่สุดตอนเช้า.........กลาง ๆ ตอนเที่ยง..........และตกเย็นแล้ว ทำตัวเป็นยาจก ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
๓. กินอาหารที่.........โตบนต้นและบนดิน........พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
๔. ใช้ชีวิตบนหลักการ .....3 E...นั่นคือ .......energy หรือพลังงาน ........enthusiasm หรือกระตือตือร้น และ ........empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ
๕. หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
๖. เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง อย่าเครียดกันนักเลย
๗. อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่า....ปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
๘. นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
๙. นอนวันละ 7 ชั่วโมง
๑๐. เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที แล้วแต่จะสะดวก ไม่ต้องเครียดกับมัน วันไหนไม่ได้เดิน ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
๑๑. ระหว่างเดิน อย่าลืมยิ้ม

นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ......หากทำเป็นกิจวัตร ชีวิตก็จะแจ่มใส.......แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียด ด้วยการรู้สึกผิด ถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลาของตนเอาไว้

..........วันนี้ทำไม่ได้, พรุ่งนี้ทำก็ได้..............

แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการผัดวันประกันพรุ่ง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน

สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้
๑. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น......คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้น........เขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
๒. อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้.......แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย.....
๓. อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้......รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน...........
๔. อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก...........เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก........
๕. อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณ........กับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง.....
๖. จงฝันตอนตื่น.....มากกว่าตอนหลับ....
๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว.....
๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย ......และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย .....เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ...
๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น...
๑๐. ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
๑๑. ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้.....นอกจากคุณเอง.....
๑๒. จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน ......คุณมาเพื่อเรียนรู้ ........และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต....
๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก......บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้......เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร....

แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ?
๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย
๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด

และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้, ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้
๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่สวย ไม่น่ารื่นรมย์ จงทิ้ง ไปเสีย.......เก็บไว้ทำไม?
๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด......เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุก จากเตียง, แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย........get up, dress up and show up.
๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้ อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ........ดังนั้น ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?

ลายบล๊อกไม้น่าลองถัก