วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คณิตน่ารู้ประจำเดือนสิงหาคม


ผู้จัดหาสาระน่ารู้มาให้นักเรียนทุกคนประจำเดือนนี้ คือ สุดสวยของเรา ครูวรินยุพา หรือครูต๋อย นั่นเองค่ะ

7 อุปนิสัยสร้างเด็กให้ประสบความสำเร็จ




1.เด็กที่ประสบความสำเร็จคือเด็กที่มีความมั่นใจ สามารถควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ ได้
ความมั่นใจเป็นกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกเด็กวัยรุ่นสู่อิสรภาพ รวมถึงปลดปล่อยความสามารถในด้านอื่น ๆ ของตนเองออกมา พ่อแม่จึงควรสนับสนุนให้ลูกวัยรุ่น หรือวัยพรีทีนมีโอกาสแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และรับผิดชอบชีวิตของตนเอง เด็กที่มีความมั่นใจจะเข้าใจว่า ตัวเขาเองคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย และเขาจะไม่กลายเป็นเด็กที่ชอบโทษคนอื่น หรือสิ่งอื่นว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาด้วย

2.เด็กที่ประสบความสำเร็จคือเด็กที่มีเป้าหมายในชีวิต

เด็กวัยรุ่น หรือเด็กวัยพรีทีนจำนวนไม่น้อยเกิดความสับสนเกี่ยวกับเป้าหมายของชีวิต และคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ เขาอาจไม่ทราบว่า ทำไมเขาถึงต้องทำสิ่งนี้ เขาจะประสบความสำเร็จไปเพื่อใคร และอาจมองชีวิตว่าเป็นการเดินทางที่ไร้จุดหมายแน่นอน ในจุดนี้ หากพ่อแม่ช่วยลูกสร้างเป้าหมายในชีวิต หรือแนะแนวทางในการตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินชีวิตได้ก็จะช่วยให้ชีวิต และทางเดินของเขามีคุณค่าต่อตัวเองและต่อสังคมมากยิ่งขึ้น

3.เด็กที่ประสบความสำเร็จคือคนที่รู้จักจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง

เด็กที่รู้จักจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง และรู้จักการบริหารเวลา จะทำให้เขาสามารถพุ่งความสนใจในสิ่งที่ควรให้ความสนใจเป็นอันดับแรก และทำมันได้สำเร็จ อีกทั้งความหมายของหัวข้อดังกล่าวยังมองไปถึงการก้าวข้ามความกลัว ซึ่งเป็นอุปสรรคในการตัดสินใจในช่วงเวลาสำคัญ ๆ ได้อีกด้วย

4.เด็กที่ประสบความสำเร็จคือเด็กที่มีแนวคิดแบบ Win-Win

ในโลกใบนี้ การต้องมีผู้แพ้-ผู้ชนะในการแข่งขันดูจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันจะดีมากกว่า หากเด็ก ๆ ได้เรียนรู้การทำให้เกิดผู้ชนะทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครเป็นฝ่ายแพ้ เด็กจะได้เรียนรู้จากบรรยากาศที่ทุกฝ่ายสามารถฉลองชัยร่วมกันได้ แทนที่จะต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกเยาะเย้ยจากความพ่ายแพ้

5.เด็กที่ประสบความสำเร็จคือเด็กที่รู้จักฟัง
ปัญหาที่เกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราไม่รับฟังคนอื่นมากพอจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน การฝึกการฟังให้เด็กเป็นผู้ฟังอย่างมีสติ จับประเด็นได้ถูกต้อง จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตได้ง่ายและเร็วกว่าคนอื่น

6.เด็กที่ประสบความสำเร็จคือเด็กที่ทำงานเป็นทีมได้

การทำงานเป็นทีมมักให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำงานเพียงคนเดียวหลายเท่าพันทวี และมักสร้างสิ่งดี ๆ ให้เกิดแก่สังคมได้มากมาย เด็กที่จะผ่านจุดนี้ไปได้นั้น ต้องเรียนรู้ให้มากกว่าการยึดเอาตามความคิดของ "ฉัน" หรือความคิดของ "เธอ" แต่เป็นการรวมสมองเพื่อมองหาทางที่แตกต่าง ทางใหม่ ๆ ที่ทุกคนสามารถได้รับประโยชน์โดยเท่าเทียมกัน


7.เด็กที่ประสบความสำเร็จคือเด็กที่มีวิสัยทัศน์

เด็กวัยพรีทีีนหรือวัยรุ่น เป็นช่วงที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก และพร้อมสำหรับการรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต ซึ่งในจุดนี้ทำให้เขาพร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพ และวิสัยทัศน์ให้เฉียบคม เพื่อที่เขาจะนำมันไปใช้รับมือกับอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตต่อไป


แหล่งที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

บันได4ขั้น สู่รักแท้

"ความรักจะเป็นสิ่งที่ล้ำเลิศ หรือความทุกข์ตรม ขึ้นอยู่กับว่ารักด้วยสมองหรือรักแบบขึ้นสมอง วันหนึ่งเมื่อรักไม่สมหวังในความรัก ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สมหวังในการดำเนินชีวิต รวมทั้งต้องไม่ยึดติดว่าความรักมีเพียงมิติเดียว คือ ความรักเชิงชู้สาวเท่านั้น แต่ความรักมีหลายมิติ เปรียบเสมือนบันไดต้องเดินขึ้นไปทีละขั้น จนถึงความหมายของความรัก นั่นคือ ความสุข ถ้ารักแล้วมีความทุกข์พัฒนาการของความรักยังไม่สมบูรณ์" ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวว่า ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวอีกว่า ขั้นบันไดแห่งความรักนั้นมี 4 ขั้น ขั้นที่ 1 รักตัวกลัวตาย รักชนิดนี้ ถ้ามีมากๆ จะทำให้เกิดความเห็นแก่ตัว ขั้นที่ 2 รักใคร่ปรารถนา อิงกับสัญชาตญาณการสืบพันธุ์ ความรักชนิดนี้มีมากจะทำให้เกิดความลุ่มหลง กามารมณ์ หนุ่มสาวจะยึดความรักชนิดนี้เป็นที่พึ่งของชีวิต ยึดติดความใคร่มาใช้ในนามของความรัก จนกลายเป็นความโลภ คือ อยากจะครอบครองใครสักคนให้อยู่ในความควบคุมของเรา พอควบคุมไม่ได้ความรักก็กลายเป็นความร้าย เป็นโศกนาฏกรรม เช่น ทำร้ายคนรัก เผยแพร่คลิปคนรัก สาดน้ำกรดคนรัก เป็นต้น ขั้นที่ 3 รักเมตตาอารี ให้เห็นคนทั้งโลกว่า เป็นมิตรแก่เรา ขั้นที่ 4 รักมีแต่ให้ รักปัญญาชนไม่คิดจะทำร้ายใคร ไม่หวังผล ซึ่งความรักจะต้องพัฒนาจนปลายทางของความรักแท้ คือ ความกรุณารักที่จะเป็นผู้ให้

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ชุมนุมหมากฮอส ปี ๕๔

กำลังเคร่งเครียดกันเชียว





เวทีสร้างสรรค์

..เมื่อเร็วๆนี้ กลุ่มสาระเราพึ่งมีกิจกรรมเวทีสร้างสรรค์ไป..เรานำรูปมาให้ดูด้วย






วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

“สูตรแห่งชีวิตประจำวัน”

“สูตรแห่งชีวิตประจำวัน”

๑. ดื่มน้ำให้มาก
๒. กินอาหารเช้าเหมือนราชา รับประทานอาหารเที่ยงเหมือนเจ้าชายและเมื่อถึงอาหารเย็น ให้วาดภาพว่าตัวเองเป็นแค่ขอทาน (แปลว่า....กินมือหนักที่สุดตอนเช้า.........กลาง ๆ ตอนเที่ยง..........และตกเย็นแล้ว ทำตัวเป็นยาจก ไม่มีอะไรจะกิน...สุขภาพจะเป็นอย่างเทวดาทีเดียวเชียวแหละ)
๓. กินอาหารที่.........โตบนต้นและบนดิน........พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ผลิตจากโรงงาน
๔. ใช้ชีวิตบนหลักการ .....3 E...นั่นคือ .......energy หรือพลังงาน ........enthusiasm หรือกระตือตือร้น และ ........empathy คือเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ๆ
๕. หาเวลาทำสมาธิหรือสวดมนต์เสมอ
๖. เล่นเกมสนุก ๆ เสียบ้าง อย่าเครียดกันนักเลย
๗. อ่านหนังสือให้มากขึ้น...ตั้งเป้าว่า....ปีนี้จะอ่านมากกว่าปีที่ผ่านมา
๘. นั่งเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองสักวันละ 10 นาทีให้ได้
๙. นอนวันละ 7 ชั่วโมง
๑๐. เดินสักวันละ 10 ถึง 30 นาที แล้วแต่จะสะดวก ไม่ต้องเครียดกับมัน วันไหนไม่ได้เดิน ก็อย่าหงุดหงิดกับมัน
๑๑. ระหว่างเดิน อย่าลืมยิ้ม

นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจที่ผสมปนเปกันได้เสมอ......หากทำเป็นกิจวัตร ชีวิตก็จะแจ่มใส.......แต่อย่าทำให้ตัวเองเครียด ด้วยการรู้สึกผิด ถ้าหากวันไหนทำไม่ได้ตามที่วางกำหนดเวลาของตนเอาไว้

..........วันนี้ทำไม่ได้, พรุ่งนี้ทำก็ได้..............

แต่การไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองเกินไปไม่ได้หมายถึงการผัดวันประกันพรุ่ง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน

สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้
๑. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น......คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้น........เขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
๒. อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้.......แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย.....
๓. อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้......รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน...........
๔. อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก...........เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก........
๕. อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณ........กับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง.....
๖. จงฝันตอนตื่น.....มากกว่าตอนหลับ....
๗. ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว.....
๘. ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย ......และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย .....เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ...
๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น...
๑๐. ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
๑๑. ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้.....นอกจากคุณเอง.....
๑๒. จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน ......คุณมาเพื่อเรียนรู้ ........และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต....
๑๓. จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก......บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้......เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร....

แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ?
๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย
๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด

และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้, ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้
๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่สวย ไม่น่ารื่นรมย์ จงทิ้ง ไปเสีย.......เก็บไว้ทำไม?
๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผลทุกอย่างได้
๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด......เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน
๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุก จากเตียง, แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย........get up, dress up and show up.
๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้ อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ........ดังนั้น ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า?

ลายบล๊อกไม้น่าลองถัก

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

นิทานคณิตศาสตร์

นิทานคณิตศาสตร์

PPshare-(Eng)เพลงเศษส่วน

ครูบุษยมาศ สอนคณิตศาสตร์ด้วยเพลง

..กำลังใจ..


Don't lose your way with each passing day
อย่ามัวพะวงหลงทาง อยู่กับวันเวลาที่ผันผ่านไปในแต่ละวัน
You've come so far, don't throw it away

...
คุณได้เดินทางมาแสนยาวไกล อย่าได้ปล่อยให้เวลาสูญเปล่าไปอีกเลยLive believing, dreams are for wearing

จงมีชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อมั่น, ถักทอความฝันไว้เป็นกำลังใจ
Wonders are waiting to start

สิ่งมหัศจรรย์กำลังรอเวลา เพื่อการเริ่มต้นใหม่
Live your story, Faith hope and glory

จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความศรัทธา ความหวัง และความงดงาม
Hold to the truth in your heart

ยึดถือความเป็นจริงในหัวใจของคุณ
If we hold on together

ถ้าเราจับมือกันไว้ แล้วไปด้วยกัน

กลุ่มสาระคณิตศาสตร์โรงเรียนสุริยวงศ์: ความประสบความสำเร็จ

กลุ่มสาระคณิตศาสตร์โรงเรียนสุริยวงศ์: ความประสบความสำเร็จ

ความประสบความสำเร็จ

..ทางกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทุกคนที่จบการศึกษา 2553 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ  และได้ไปสอบแข่งขันยังสถาบันการศึกษาต่างๆได้อย่างน่าภาคภูมิใจ 
..ถึงแม้ว่าใครในหลายๆคนจะไม่มั่นใจในความสามารถของนักเรียน แต่ครูที่สอนพวกเธอมาก็มีความยินดีเป็นอย่างมากและคอยมองพวกเธอเติบโตมีอนาคตที่สดใส  .....ขอแสดงความยินดีกับการก้าวผ่านแม่น้ำมาได้แล้วอีกหนึ่งสายค่ะ...
..หนทางข้างหน้ายังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร..แต่ขอให้พวกเธอสู้ สู้ ต่อไป ความสำเร็จรอพวกเธออยู่ข้างหน้าค่ะ...

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

ดอกไม้จะบาน

**สมการที่เป็นจริง....จริงด้วย**


ROMANCEMATHEMATICS  
Smart man + smart woman = romance

ผู้ชายเท่ห์ + ผู้หญิงเก่ง = ความ โรแมนติก

Smart man + dumb woman = affair

ผู้ชายเก่ง + ผู้หญิงโง่  =   ความใคร่ *
Dumb man + smart woman = marriage

ผู้ชายโง่   + ผู้หญิงเก่ง = การแต่งงาน
Dumb man + dumb woman = pregnancy
ผู้ชายโง่ + ผู้หญิงโง่ = ตั้ง ท้อง **

*
OFFICE ARITHMETIC *

Smart boss + smart employee = profit

เจ้านายเก่ง + ลูกน้องเก่ง = กำไร **

Smart boss + dumb employee = production

เจ้านายเก่ง + ลูกน้องโง่ = ผล ผลิต **
Dum! b boss + smart employee = promotion

เจ้านายโง่ + ลูกน้องเก่ง = เลื่อน ตำแหน่ง


Dumb boss + dumb employee = overtime

เจ้านายโง่ + ลูกน้อง โง่ = OT อย่าง เดียว **

*
SHOPPING MATH *


A man will pay $2 for a $1 item he needs.

ผู้ชายจ่าย 2 บาท ต่อ ของ 1 ชิ้นที่เขาต้องการ


A woman will pay $1 for items that she doesn't need.

แต่ ผู้หญิง จ่าย 1 บาท ต่อ ของหลายๆชิ้น ที่เธอไม่ต้อง การ **


*
GENERAL EQUATIONS & STATISTICS *


A woman worries about the future until she gets a husband.

ผู้หญิงจะกังวลเกี่ยวกับอนาคตจนกว่าจะ มีสามี **
A man never worries about the future until he gets a wife.

แต่ ผู้ชายไม่เคยกังวลเลยเกี่ยวก ับอนาคตเลยจนกระทั่งมีภรรยา **

A successful man is one who makes more money than his wife can spend.

ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่สามารถหาเงินได้มากกว่าที่ภรรยาใช้ **
A successful woman is one who can find such a man.

แต่ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่สามารถหาสามีได้อย่างคนข้างบน **


*
HAPPINESS *


To be happy with a man, you must understand him a lot and love him a little.

การจะมีความสุขกับผู้ชายคนนึง คุณจะต้องเข้าใจเค้ามากๆ แต่รักเค้า น้อยๆ
To be happy with a woman, you must love her a lot and not try to understand her at all.

การจะมีความสุขกับผู้หญิงคนนึง คุณต้องรักเธอมากๆ และไม่ต้องพยายามอะไรในตัวเธอ ทั้งสิ้น **


*
LONGEVITY *


Married men live longer than single men do, but married menare a lot more willing to die.

ผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีอายุยืนกว่าชายโสด แต่ชายที่แต่งงานแล้วกลับ เต็มใจเลือกที่จะตายมากกว่าอยู่ **


*
PROPENSITY TO CHANGE *

A woman marries a man expecting he will change, but he doesn't. **

ผู้หญิงแต่งงานกับผู้ชายคนนึงและหวัง ว่าจะเปลี่ยน แปลงเค้าได้ แต่ผู้ชายไม่ เปลี่ยน*
A man marries a woman expecting that she won't change, and she does. **

ส่วน ผู้ชายแต่ง งานกับผู้หญิงและหวังว่าเธอคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เธอก็ เปลี่ยน **


ท่าทางการแอ็คชั่นสมาชิกกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ สว.53